8 ราศีบูชาพญานาคแล้วจะร่ำรวยถูกหวย

หากจะพูดถึงพญานาคในบ้านเรานั้นคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะเรื่องราวของพญานาคนี้ถูกกล่าวขานกันมานาน ว่ากันว่าพญานาคนี้เป็นกึ่งสัตว์กึ่งเทพมีลักษณะคล้ายงูใหญ่ มีหงอนสีทอง มีเกร็ดที่ลำตัวเหมือนปลา และมีดวงตาสีแดง ส่วนสีนั้นก็จะขึ้นอยู่กับบารมี บ้างก็สีดำ บ้างก็สีเขียว บ้างก็สีรุ้ง ในส่วนของหัวนั้นหากเป็นนาคที่อยู่ในตระกูลธรรมดาก็จะมีหัวเดียว แต่ถ้ามีจำนวนหัวที่มากขึ้นไป เช่น 3 หรือ 5 หรือ 7 หรือ 9 หัวก็จะเป็นตระกูลที่สูงขึ้นไปนั่นเอง ว่ากันว่าพญานาคนี้มีอิทธิฤทธิ์สามารถแปลงกลายและดลบันดาลให้เกิดทั้งคุณหรือโทษได้ แต่หากตกอยู่ในสภาวะ เกิด ขณะลอกคราบ  ขณะสมสู่ ขณะนอนหลับโดยไม่มีสติ ตาย เมื่อตกอยู่ในสภาวะนี้ก็จะกลับกลายมาเป็นพญานาคเหมือนเดิมนั่นเอง

ว่ากันว่าการบูชาพญานี้ตามความเชื่อว่า หากบูชาสิ่งนี้จะทำให้เกิดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต และราศีที่เหมาะที่จะบูชาพญานาคมากที่สุด หรือราศีที่บูชาพญานาคแล้วจะร่ำรวยเงินทอง ถูกหวยรวยเงินนั้น เล่นหวยออนไลน์ ก็คือ ราศีกุมภ์ มีน เมษ กรกฏ ตุลย์ กันย์ พิจิก และธนู โดยมีเคล็ดในการบูชาพญานาค ดังนี้

ทุกๆวันพระขึ้น 15 ค่ำ ให้น้ำภาพหรือรูปปั้นที่คุณบูชาไว้มาแช่น้ำ หรือทาด้วยน้ำมันจันทน์หอม และเครื่องสังเวยที่จะถวายนั้นให้เป็นจำพวกผลไม้ห้ามเป็นเนื้อสัตว์เด็ดขาด เพราะมีความเชื่อกันที่ว่าท่านเป็นผู้รักษาศีล บูชาพร้อมด้วยดอกไม้สีขาว และสวดมนต์นั่งสมาธิถวายบุญให้ท่าน และอธิฐานในสิ่งที่ปรารถนา ว่ากันว่าการบูชาด้วยการสวดมนต์อานิสงส์ของการสวดมนต์จะเป็นกำแพงแก้วช่วยคุ้มกันอันตรายต่างๆได้ ซึ่งแนะนำให้ใช้บทสวดบทขันธปิตร ซึ่งบทสวดมนต์บทนี้เป็นบทที่แผ่เมตตาให้กับพญานาคทุกตระกูล

บทสวดขันธปิตร

วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม

ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ

อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม

จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม

มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก

มา มัง จะตุปปะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโก

สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา

สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง  สัมมาสัมพุทธานัง ฯ